คลอรีนไดออกไซด์ในฟาร์ม
เทคโนโลยีคลอรีนไดออกไซด์ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในช่วงฟลายปีที่ผ่านๆมาเนื่องจากคลอรีนไดออกไซด์ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันน่าทึ่งในการฆ่าเชื้อที่ดีจนเป็นสารทางเลือกแทนคลอรีนหรือไฮโดรเจนเปอออกไซด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการออกซิเดชันซึ่งมากกว่าคลอรีนถึง 2.5 เท่าแต่มีความกัดกร่อนน้อยกว่าคลอรีน การออกฤทธิ์ในช่วง Broad Spectrum ซึ่งสามารถยับยั้ง จุลินทรีย์ แบคทีเรีย รา ยีสต์ ไวรัสได้ดี และ ความสามารถในการกำจัดไบโอฟิล์มที่คลอรีนไม่สามารถทำได้ นั่นเอง
จุดเด่นของคลอรีนไดออกไซด์ในฟาร์มปศุสัตว์
- คลอรีนไดออกไซด์ มีความสามารถในการออกซิเดชันมากกว่าคลอรีนถึง 2.5 เท่าแต่มีความกัดกร่อนน้อยกว่าคลอรีน
- คลอรีนไดออกไซด์สามารถทำปฏิกิริยาได้ที่ pH 2-10 ซึ่งเป็นช่วงที่กว้างแตกต่างจากคลอรีน
- คลอรีนไดออกไซด์เป็นสารเลือกทำปฏิกิริยา (Selective Oxidizer) จึงไม่ทำปฏิกิริยาที่ไม่จำเป็นกับสารอินทรีย์ ทำให้ใช้คลอรีนไดออกไซด์ความเข้มข้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถฆ่าเชื้อโรคได้และความสามารถนี้ยังช่วยให้สารที่เป็นประโยชน์ต่อสัตว์ของเราเช่น วิตามิน ไม่ถูกทำลายไปจากการใช้สารฆ่าเชื้อซึ่งปกติจะถูกทำลายด้วยคลอรีนหรือไฮโดรเจนเปอออกไซด์
- คลอรีนไดออกไซด์เป็นสารฆ่าเชื้อที่ออกฤทธิ์ในช่วง Broad Spectrum ซึ่งสามารถยับยั้ง จุลินทรีย์ แบคทีเรีย รา ยีสต์ และ ไวรัสได้ดี
- คลอรีนไดออกไซด์สามารถทำลายไบโอฟิล์มได้ ซึ่งไบโอฟิล์มแหล่งที่อยู่ชั้นดีของแบคทีเรียและจุลิทรีย์ก่อโรคอันเป็นปัญหาหลักที่ทำให้สัตว์ป่วย การใช้คลอรีนไดออกไซด์ช่วยให้ไบโอฟิล์มถูกทำลายไปช่วยให้มั่นใจได้ว่าแบคทีเรียและจุลินทรีย์ก่อโรคร้ายจะไม่เกิดขึ้นมาอีก
คลอรีนทำลายไบโอฟิล์มไม่ได้ |
คลอรีนไดออกไซด์ทำลายไบโอฟิล์มได้ |
จุดเด่นของคลอรีนไดออกไซด์ในฟาร์มประมง
- คลอรีนไดออกไซด์ช่วยลดต้นทุนในการฆ่าเชื้อ
- แม้จะใช้ที่ความเข้มข้นต่ำคลอรีนไดออกไซด์ก็สามารถฆ่า Enterocytozoon Hepatopenaei (EHP) ซึ่งเป็นปรสิตก่อโรค EHP ที่ทำให้กุ้งเจริญเจิบโตช้าได้
- คลอรีนไดออกไซด์สามารถกำจัดแหล่งก่อโรคและป้องกันโรคตายด่วน (Early Mortality Syndrome (EMS)) ภายในกุ้งได้โดยใช้ความเข้มข้นในการฆ่าเชื้อน้อยกว่าคลอรีนหลายเท่า
- คลอรีนไดออกไซด์เป็นสารฆ่าเชื้อที่ออกฤทธิ์ในช่วง Broad Spectrum ซึ่งสามารถยับยั้ง จุลินทรีย์ แบคทีเรีย รา ยีสต์ และ ไวรัสได้ดี